คลินิก VelyB ::: เลเซอร์ผิวหนัง / โบท็อกซ์ / ฟิลเลอร์ / กำจัดขน / การจัดการความอ้วน(ต่อไปนี้เรียกว่า "คลินิก") ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ต และจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้งานได้ให้กับคลินิกขณะใช้บริการ

ดังนั้น คลินิกจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยอิงจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ผู้ให้บริการข้อมูลและเครือข่ายโทรคมนาคมต้องปฏิบัติตาม เช่น กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองความลับทางการสื่อสาร, กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจโทรคมนาคม และกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศ เป็นต้น

นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราวตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและคำแนะนำจากรัฐบาล หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายภายในของคลินิก ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ คลินิกจะโพสต์รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงไว้บนหน้าแรกของเว็บไซต์ทันที

ผ่านนโยบายนี้ ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมจะถูกนำไปใช้อย่างไรและในรูปแบบใด รวมถึงมาตรการในการปกป้องข้อมูลนั้นอย่างปลอดภัย

[ลำดับของนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีดังต่อไปนี้]

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและวิธีการเก็บรวบรวม

คลินิกจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นขั้นต่ำสำหรับการใช้บริการเมื่อลงทะเบียนเป็นสมาชิก ข้อมูลส่วนบุคคลที่คลินิกเก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้ โดยแบ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นและข้อมูลที่เลือกได้ ข้อมูลที่เลือกได้จะไม่ส่งผลต่อการใช้บริการหากไม่ได้กรอก

ก. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมขณะรับบริการทางการแพทย์

• ข้อมูลที่จำเป็น: ชื่อ, เลขบัตรประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขโทรศัพท์มือถือ, อีเมล, เลขทะเบียนคนต่างด้าว(เฉพาะชาวต่างชาติ)
• ข้อมูลด้านสุขภาพ: ประวัติการเจ็บป่วย, ประวัติครอบครัว ซึ่งเป็นข้อมูลที่แพทย์พิจารณาว่าจำเป็นเพื่อให้บริการทางการแพทย์
※ ตามกฎหมายแพทย์ ข้อมูลที่ระบุตัวตนเฉพาะและข้อมูลการรักษาต้องถูกเก็บรักษาไว้อย่างจำเป็น
(การเก็บข้อมูลการรักษาจะไม่ต้องขอความยินยอมแยกต่างหาก)

ข. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเมื่อลงทะเบียนสมาชิกเว็บไซต์

• ข้อมูลที่จำเป็น：ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, ชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์มือถือ, อีเมล
• ข้อมูลที่เลือกได้：ความยินยอมรับ SMS, ความยินยอมรับอีเมล
• ข้อมูลสำคัญ：ประวัติการเจ็บป่วย, ประวัติการผ่าตัด, ความสนใจในสาขาการผ่าตัด
ในระหว่างการใช้บริการหรือในกระบวนการจัดการบริการ ข้อมูลต่อไปนี้อาจถูกสร้างและเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ
• ข้อมูลการใช้บริการ, บันทึกการเข้าใช้งาน, คุกกี้, ข้อมูล IP การเข้าใช้งาน

ค. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเมื่อชำระค่าบริการทางการแพทย์

• เมื่อชำระเงินผ่านบัตรเครดิต: ชื่อบริษัทบัตร, หมายเลขบัตร, ข้อมูลอนุมัติการชำระเงิน

ง. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

• คลินิกจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยวิธีการดังต่อไปนี้:
ผ่านทางเว็บไซต์ (การลงทะเบียนสมาชิก, ปรึกษาค่าผ่าตัด, ปรึกษาผ่าน KakaoTalk, การปรึกษาแบบเรียลไทม์, การจองออนไลน์, การปรึกษาออนไลน์, รีวิว ฯลฯ), แบบฟอร์มเป็นลายลักษณ์อักษร, แฟกซ์, โทรศัพท์, อีเมล

2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกจะนำข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ ข้อมูล
ทั้งหมดที่ผู้ใช้ให้จะถูกใช้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ข้อมูลจะต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้า

•การให้บริการทางการแพทย์สำหรับการวินิจฉัยและรักษา
•การเรียกเก็บ, ชำระเงิน, และการคืนค่าบริการทางการแพทย์
•การส่งใบรับรองและวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสุขภาพ
•ข้อมูลวิเคราะห์ที่จำเป็นขั้นต่ำสำหรับการศึกษา, การวิจัย และการบริการทางการแพทย์
•ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทดสอบที่ได้รับมอบหมายทางออนไลน์และการตรวจสอบการทดลองทางคลินิก
•การให้บริการข้อมูลสุขภาพและข้อมูลการวิจัยทางคลินิก
•การจองและตรวจสอบการนัดหมายทางการแพทย์ รวมถึงบริการสมาชิกบนเว็บไซต์
•การเก็บสถิติการใช้บริการ
•การสื่อสารสำหรับการแจ้งเตือน, การจัดการข้อร้องเรียน
•การใช้เป็นข้อมูลในการตอบกลับการปรึกษาออนไลน์
•การให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการและกิจกรรมใหม่ๆ
•การพัฒนาและให้บริการใหม่ๆ ที่ปรับให้เหมาะกับบุคคล
•การรวบรวมข้อมูลผู้บริโภคตามมาตรา 54 ของกฎหมายผู้บริโภค
•การให้บริการแบบสอบถามและกิจกรรมต่างๆ

3. การให้และการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือองค์กรอื่นใดเกินกว่าขอบเขตวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่านหรือเป็นไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ข้อยกเว้นมีดังนี้:
- ในกรณีที่ผู้ใช้ได้ยินยอมล่วงหน้าในการเปิดเผยข้อมูล
- เป็นไปตามกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอบสวนที่เป็นไปตามกระบวนการและวิธีการที่กฎหมายกำหนดตามคำขอของหน่วยงานสืบสวน
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำสถิติ, การวิจัยทางวิชาการ หรือการสำรวจตลาด และข้อมูลที่ให้จะถูกดำเนินการในลักษณะที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลใดได้

4. การมอบหมายงานการประมวลผล (การจัดการ) ข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น และเพื่อความสะดวกของลูกค้า คลินิกได้มอบหมายงานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบริษัทผู้เชี่ยวชาญภายนอกตามรายละเอียดต่อไปนี้:

บริษัทรับจ้าง	เนื้อหางานที่มอบหมาย	ข้อมูลส่วนบุคคลที่มอบหมาย	ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ครอสเอ็ม	การพัฒนาและการดำเนินการเว็บไซต์	ชื่อ, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์	จนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด
บริษัท VelyB โฮลดิ้งส์ จำกัด	การพัฒนาและการดำเนินการเว็บไซต์	ชื่อ, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์	จนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด

5. ระยะเวลาการเก็บรักษา และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ล่าช้าทันทีเมื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลดังกล่าวได้บรรลุผลแล้ว

• ในกรณีของข้อมูลการสมัครสมาชิก: เมื่อยกเลิกการเป็นสมาชิกหรือลบชื่อจากสมาชิก หรือในกรณีที่ไม่มีการเข้าสู่ระบบเกิน 1 ปี นับจากวันที่เข้าสู่ระบบครั้งล่าสุด (ตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และข้อ 16 ของกฎกระทรวง)
• ในกรณีของการเก็บข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรวจความคิดเห็นหรือการจัดงาน: เมื่อการสำรวจความคิดเห็นหรืองานนั้นสิ้นสุดลง
• ในกรณีของการเก็บข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์: เก็บรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ 15 ของกฎกระทรวงการแพทย์ เรื่อง "การเก็บรักษาข้อมูลทางการแพทย์" (รายชื่อผู้ป่วย: 5 ปี, บันทึกการรักษา: 10 ปี) (ข้อมูลที่เก็บรักษา: ชื่อ, ที่อยู่, ข้อมูลการรักษา)
• ในกรณีของการเก็บบันทึกการร้องเรียนหรือข้อพิพาทของผู้บริโภค: 3 ปี (ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์)
• ในกรณีของการเก็บข้อมูลการจัดการ/การใช้ข้อมูลเครดิต: เก็บรักษาเป็นเวลา 3 ปีตามพระราชบัญญัติการใช้และการคุ้มครองข้อมูลเครดิต (ข้อมูลที่เก็บรักษา: ชื่อบริษัทบัตร, หมายเลขบัตร และข้อมูลการอนุมัติการชำระเงิน)
• ในกรณีของการเก็บบันทึกการยืนยันตัวตน: 6 เดือน (ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
• ในกรณีของการเก็บบันทึกการเยี่ยมชม: 3 เดือน (ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลการสื่อสาร)

อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อกำหนดของกฎหมาย เช่น ประมวลกฎหมายพาณิชย์ โรงพยาบาลสามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้แม้วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลดังกล่าวได้บรรลุผลแล้วก็ตาม

6. ขั้นตอนและวิธีการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทันทีหลังจากที่วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้บรรลุผลแล้ว ขั้นตอนและวิธีการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลมีดังนี้:

ก. ขั้นตอนการทำลาย

ข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกเพื่อการสมัครสมาชิกหรืออื่นๆ จะถูกทำลายทันทีหลังจากที่บรรลุวัตถุประสงค์ตามวิธีการทำลายข้อมูลดังต่อไปนี้.

ข. ระยะเวลาการทำลาย

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จะถูกทำลายภายใน 5 วันหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล หรือภายใน 5 วันนับจากวันที่ถือว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป เช่น เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล, การยกเลิกบริการ หรือการสิ้นสุดธุรกิจ เป็นต้น

ค. วิธีการทำลาย

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์จะถูกลบด้วยวิธีทางเทคนิคที่ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่พิมพ์ลงบนกระดาษจะถูกทำลายโดยการบดด้วยเครื่องบดหรือเผาทิ้ง

7. สิทธิของผู้ใช้และผู้แทนตามกฎหมาย และวิธีการใช้สิทธิ

คลินิกจะดำเนินการอย่างซื่อสัตย์และโดยไม่ล่าช้า หากลูกค้าร้องขอการเข้าถึง, การแก้ไข หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลของตน เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล คลินิกไม่ให้บริการการเข้าถึง, การแก้ไข หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางโทรศัพท์, ไปรษณีย์, แฟกซ์ หรือวิธีการสมัครอื่นๆ นอกเหนือจากการเยี่ยมชมโดยตรงของลูกค้า

ก. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมคลินิกและร้องขอการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ คลินิกจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว

ข. การแก้ไข/การลบข้อมูลส่วนบุคคล

• คลินิกจะดำเนินการแก้ไข/ลบข้อมูลส่วนบุคคลทันที หากพบว่ามีข้อผิดพลาดในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือมีความจำเป็นต้องแก้ไข/ลบข้อมูลนั้น คลินิกอาจร้องขอเอกสารที่จำเป็นเพื่อยืนยันความถูกต้องของการแก้ไขข้อมูล ก่อนที่จะทำการแก้ไขเสร็จ คลินิกจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และหากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลที่สามแล้ว คลินิกจะแจ้งผลการแก้ไขข้อมูลให้บุคคลที่สามนั้นโดยไม่ล่าช้า
• หากลูกค้าร้องขอการเข้าถึง, การแก้ไข หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลของตน ลูกค้าจะต้องแสดงบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง หรือใบขับขี่เพื่อยืนยันตัวตน
• ในกรณีที่ผู้แทนตามกฎหมายของลูกค้ามาดำเนินการแทน ลูกค้าจะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอม รวมถึงบัตรประจำตัวของผู้แทนเพื่อยืนยันความถูกต้องของผู้แทน.
• หากคลินิมีเหตุผลอันสมควรที่จะปฏิเสธการเข้าถึง, การแก้ไข หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วน คลินิจะแจ้งเหตุผลนั้นให้ลูกค้าทราบและอธิบายให้เข้าใจ
- กรณีที่อาจมีการจำกัดการเข้าถึงและการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
- มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต, ร่างกาย, ทรัพย์สิน หรือสิทธิของตนเองหรือบุคคลที่สาม
- มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของผู้ให้บริการ
- เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย
- สำหรับการสมัครสมาชิกของเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี (ต่อไปนี้เรียกว่า "เด็ก") จะต้องใช้แบบฟอร์มแยกต่างหากและต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนตามกฎหมายเมื่อมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
- คลินิกจะเก็บข้อมูลขั้นต่ำ เช่น ชื่อและข้อมูลติดต่อของผู้แทนตามกฎหมายจากเด็ก เพื่อขอความยินยอมจากผู้แทนตามกฎหมาย และจะดำเนินการขอความยินยอมตามวิธีที่ระบุในนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ใช้และผู้แทนตามกฎหมายสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนโดยการติดต่อคลินิกผ่านทางอินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์ หรือเอกสาร และโรงพยาบาลจะดำเนินการโดยไม่ล่าช้า
※ ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีกฎหมายบังคับให้เก็บรักษาไม่สามารถแก้ไขหรือลบได้แม้มีการร้องขอในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้เก็บรักษา

8. วิธีการถอนความยินยอมและการยกเลิกสมาชิก

ท่านสามารถถอนความยินยอมที่ให้ไว้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อหลังจากสมัครสมาชิก การถอนความยินยอม (การยกเลิกสมาชิก) สามารถทำได้โดยคลิกที่ 『การยกเลิกสมาชิก』 บนเว็บไซต์ ดำเนินการยืนยันตัวตนของท่าน แล้วทำการถอนความยินยอมด้วยตัวเอง หรือท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ข้อมูลส่วนบุคคล คลินิกจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ล่าช้า และดำเนินการตามความจำเป็น

9. การติดตั้ง/การใช้งานอุปกรณ์การเก็บรวบรวมข้อมูลอัตโนมัติ และการปฏิเสธการใช้งาน

คลินิกใช้ 'คุกกี้ (cookie)' เพื่อให้บริการที่ปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเก็บรวบรวมและเรียกข้อมูลของผู้ใช้เป็นระยะ คุกกี้เป็นข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ผู้ใช้และอาจถูกเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ของ PC

ก. วัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้

• คุกกี้สามารถระบุตัวตนของคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ แต่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของผู้ใช้โดยเฉพาะ คลินิกใช้คุกกี้เพื่อเข้าใจรูปแบบการเยี่ยมชมและการใช้บริการ ขนาดของผู้ใช้ และข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้สามารถให้บริการที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
• ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ของตนเพื่อเลือกว่าจะอนุญาตให้ใช้คุกกี้หรือไม่ ซึ่งหมายความว่าท่านสามารถเลือกที่จะยอมรับคุกกี้ทั้งหมด ให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีการติดตั้งคุกกี้ หรือปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด
• อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำเป็นต้องอนุญาตให้ใช้คุกกี้เพื่อใช้บริการบางอย่างที่ต้องเข้าสู่ระบบ (LOG-IN) บนเว็บไซต์ของคลินิก

ข. การติดตั้ง/การใช้งานและการปฏิเสธคุกกี้

• ผู้ใช้มีสิทธิ์เลือกว่าจะอนุญาตให้ติดตั้งคุกกี้หรือไม่ ดังนั้น ท่านสามารถปรับการตั้งค่าบนเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อยอมรับคุกกี้ทั้งหมด ให้มีการยืนยันเมื่อมีการติดตั้งคุกกี้ หรือปฏิเสธการติดตั้งคุกกี้ทั้งหมด.
• การปฏิเสธการตั้งค่าคุกกี้: ท่านสามารถปฏิเสธการตั้งค่าคุกกี้ได้โดยการเลือกตัวเลือกบนเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน ซึ่งท่านสามารถเลือกที่จะอนุญาตให้ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด ให้มีการยืนยันทุกครั้งเมื่อมีการจัดเก็บคุกกี้ หรือปฏิเสธการจัดเก็บคุกกี้ทั้งหมด
• วิธีการตั้งค่าคุกกี้ เช่น
• ในกรณีของ Internet Explorer: เลือกเมนูเครื่องมือที่ด้านบนของเว็บเบราว์เซอร์ > ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต > ความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า
• ในกรณีของ Chrome: เลือกเมนูการตั้งค่าทางด้านขวาของเว็บเบราว์เซอร์ > เลื่อนลงไปที่การตั้งค่าขั้นสูง > คลิกปุ่มการตั้งค่าข้อมูลส่วนบุคคล > คุกกี้
• อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธการเก็บคุกกี้อาจทำให้ท่านประสบปัญหาในการใช้บริการบางส่วนที่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์ของคลินิก

10. มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

[การลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและการฝึกอบรม]

คลินิกได้ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลข้อมูลส่วนบุคคลให้น้อยที่สุดและจัดการฝึกอบรมเป็นประจำ

[การตรวจสอบภายในเป็นประจ]

คลินิกได้ดำเนินการตรวจสอบภายในอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อรักษาความปลอดภัยในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

[การจัดทำและดำเนินการตามแผนการบริหารภายใน]

เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการจัดการอย่างปลอดภัย คลินิกได้จัดทำและดำเนินการตามแผนการบริหารภายใน

[การเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคล]

รหัสผ่านของผู้ใช้ได้รับการเข้ารหัสเพื่อจัดเก็บและจัดการ และเฉพาะตัวผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถทราบได้ นอกจากนี้ ข้อมูลสำคัญยังได้รับการเข้ารหัสทั้งในรูปแบบไฟล์และการถ่ายโอนข้อมูลผ่านฟังก์ชันความปลอดภัยเพิ่มเติม

[มาตรการทางเทคนิคในการป้องกันการโจมตีจากภายนอก เช่น การแฮก]

เพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการแฮกหรือไวรัสคอมพิวเตอร์ คลินิกได้ติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัย และดำเนินการอัปเดตและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ คลินิกยังได้ติดตั้งระบบในเขตที่มีการควบคุมการเข้าถึงจากภายนอก และใช้มาตรการทางเทคนิคและทางกายภาพในการตรวจสอบและปิดกั้นการเข้าถึง

[การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล]

คลินิกได้ดำเนินการให้สิทธิ์ เปลี่ยนแปลง และยกเลิกสิทธิ์การเข้าถึงระบบฐานข้อมูลที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อควบคุมการเข้าถึง นอกจากนี้ยังใช้ระบบป้องกันการบุกรุกเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากภายนอก

[การควบคุมการเข้าออกของผู้ไม่ได้รับอนุญาต]

คลินิกได้จัดสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแยกต่างหากสำหรับข้อมูลระบบ และได้จัดทำและดำเนินการตามขั้นตอนการควบคุมการเข้าออกสถานที่ดังกล่าว

11. ข้อกำหนดในการดำเนินงาน/การจัดการอุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอ

คลินิกได้ดำเนินการติดตั้งและจัดการอุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

[เหตุผลและวัตถุประสงค์ในการติดตั้ง]

เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและสถานที่, ป้องกันอัคคีภัยและอาชญากรรม

[จำนวนที่ติดตั้ง, ตำแหน่งที่ติดตั้ง และขอบเขตการบันทึกภาพ]

จำนวนที่ติดตั้ง : ทั้งหมด 6 เครื่อง
ตำแหน่งที่ติดตั้งและขอบเขตการบันทึกภาพ : ล็อบบี้, ทางเดิน, ห้องให้คำปรึกษา, ห้องรักษา, ห้องพักฟื้น เป็นต้น

สถานที่ติดตั้ง	ขอบเขตการบันทึกภาพ	จำนวนที่ติดตั้ง
รวมทั้งหมด		6 เครื่อง
สาขากวางจู	เคาน์เตอร์ต้อนรับ, ทางเดิน, ห้องแป้ง, ห้องตรวจ, ห้องให้คำปรึกษา, ห้องบริหารจัดการ, ห้องทำหัตถการ, ห้องเลเซอร์, ห้องยกกระชับ	6 เครื่อง

[ผู้รับผิดชอบการจัดการ]

ผู้รับผิดชอบการจัดการ: ชเว จองโฮ / หมายเลขโทรศัพท์: 010-9974-9141 / อีเมล: velybclinic@gmail.com

[ระยะเวลาการบันทึกและวิธีการจัดการข้อมูลวิดีโอ]

ระยะเวลาการบันทึก : บันทึกภาพ 24 ชั่วโมง
วิธีการจัดการ : บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลวิดีโอส่วนบุคคลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์, การให้บุคคลที่ 3ม การลบข้อมูล, การร้องขอดูข้อมูล ฯลฯ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล จะดำเนินการลบข้อมูลอย่างถาวรด้วยวิธีที่ไม่สามารถกู้คืนได้ (กรณีเป็นข้อมูลที่พิมพ์จะทำการย่อยหรือเผาทิ้ง)

[มาตรการสำหรับคำขอดูข้อมูลวิดีโอของเจ้าของข้อมูล]

ท่านสามารถร้องขอดูข้อมูลวิดีโอส่วนบุคคลหรือยืนยันการมีอยู่ของข้อมูลได้ทุกเมื่อกับผู้ดูแลระบบอุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอ ทั้งนี้คำร้องจะจำกัดเฉพาะวิดีโอส่วนบุคคลของท่านที่ถูกบันทึกไว้ และข้อมูลวิดีโอที่จำเป็นเพื่อผลประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต, ร่างกาย หรือทรัพย์สินของเจ้าของข้อมูลอย่างเร่งด่วนเท่านั้น
แม้ท่านจะยื่นคำร้อง แต่ทางคลินิกอาจปฏิเสธคำขอดูข้อมูลได้ในกรณีดังต่อไปนี้:
- เมื่อข้อมูลวิดีโอส่วนบุคคลถูกลบไปแล้วเนื่องจากหมดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล
- มีเหตุผลที่สมควรอื่น ๆ ที่ทำให้สามารถปฏิเสธคำร้องขอดูข้อมูลของเจ้าของข้อมูลได้

[มาตรการทางเทคนิค การจัดการ และทางกายภาพ เพื่อป้องกันข้อมูลวิดีโอ]

ข้อมูลวิดีโอที่โรงพยาบาลจัดการนั้นได้รับการเข้ารหัสและดูแลอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ คลินิกได้กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลวิดีโอส่วนบุคคลตามระดับต่าง ๆ เพื่อเป็นมาตรการการจัดการ และเพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลวิดีโอส่วนบุคคล คลินิกได้บันทึกข้อมูลวันที่สร้างวิดีโอ วัตถุประสงค์การเข้าดู ชื่อผู้เข้าดู และวันที่เข้าดูไว้เพื่อการจัดการ นอกจากนี้ คลินิกยังได้ติดตั้งอุปกรณ์ล็อกเพื่อความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลวิดีโอส่วนบุคคลในเชิงกายภาพอีกด้วย

11. ผู้รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและจัดการข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล คลินิกจึงได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดด้านล่างนี้

[ผู้รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล]

ก. ผู้รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
- ชื่อ : ชเว จองโฮ
- หมายเลขโทรศัพท์ : 010-9974-9141
- อีเมล : velyBclinic@gmail.com

ข. ผู้รับผิดชอบด้านบริการลูกค้า
- แผนกและผู้รับผิดชอบ : แผนกวางแผนและประชาสัมพันธ์, ชเว จองโฮ
- หมายเลขโทรศัพท์ : 010-9974-9141
- อีเมล : velybclinic@gmail.com

ค. ผู้รับผิดชอบด้านบริการเว็บไซต์
-แผนก : แผนกวางแผนและประชาสัมพันธ์
-ชื่อ : ชเว จองโฮ
- หมายเลขโทรศัพท์ : 010-9974-9141
- อีเมล : velybclinic@gmail.com

ท่านสามารถแจ้งทุกข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นขณะใช้บริการของโรงพยาบาลไปยังผู้รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
คลินิกจะตอบกลับข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็วและเพียงพอ
หากท่านต้องการรายงานหรือปรึกษาเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อหน่วยงานดังต่อไปนี้:

คณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทส่วนบุคคล (http://www.1336.or.kr / 1336)
หน่วยสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ สำนักงานอัยการสูงสุด (http://www.spo.go.kr / (02) 3480-3573)
ศูนย์รับมืออาชญากรรมทางไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (http://www.ctrc.go.kr / (02) 392-0330)

12. หน้าที่ในการแจ้งการเปลี่ยนแปลงนโยบาย

นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้ถูกกำหนดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2018 และจะมีการเพิ่ม ลบ หรือแก้ไขเนื้อหาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย นโยบาย หรือเทคโนโลยีความปลอดภัย โดยจะมีการประกาศเหตุผลและเนื้อหาการเปลี่ยนแปลงผ่านทางเว็บไซต์ของคลินิกล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนที่จะมีการนำไปใช้

วันที่ประกาศ : 25 ตุลาคม 2018
วันที่มีผลบังคับใช้ : 25 ตุลาคม 2018